วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การใช้ Countable and Uncountable พร้อมแบบฝึกภาษาอังกฤษ

 1.Countable Nouns ( นามนับได้ )

  • เป็นนามที่สามารถแยกนับจำนวนหนึ่ง สอง สาม... ได้ ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีรูปร่างก็ได้
    มีรูปร่าง (สามารถสัมผัสได้ ) – เช่น dog, chair , tree, school, country, student, biscuit
    ไม่มีรูปร่าง  ( ไม่สามารถสัมผัสได้ ) - เช่น  day , month, year, weekend, journey
    กิจกรรม : job, assignment
  • มีทั้งรูปเอกพจน์และพหูพจน์
    เอกพจน์:  เช่น  dog,country,day,year
    พหูพจน์:   เช่น  dogs,countries,days,years
  • การใช้  นามนับได้เอกพจน์ ต้องนำหน้าด้วย determiners  อย่างใดอย่างหนึ่ง  เช่น
    I want an orange. (ไม่ใช่ I want orange.)
    Where is the bottle? ( ไม่ใช่ Where is bottle?)
    Do you want this book?
  • การใช้นามนับได้พหูพจน์อาจจะนำหน้าด้วย  articles หรือไม่ก็ได้ เช่น
    I like to feed the birds. ( เฉพาะเจาะจง ต้องมี articles )
    Cats are interesting pets. ( ไม่เฉพาะเจาะจง ไม่ต้องมี  article )
    I want those books on the table. ( those เป็น determiners )
 2.Uncountable Nouns  ( นามนับไม่ได้ )
  • เป็นนามที่นับไม่ได้ เนื่องจากภาษาอังกฤษมองสิ่งนั้นในภาพรวมและคิดว่าไม่สามารถจะแยกเป็นส่วนได้  รวมทั้งความคิด การกระทำต่างๆที่เป็นรูปธรรม( abstract nouns ) ด้วย เช่น
    Concrete: เช่น  water, milk, butter, furniture, luggage, iron,equipment,clothing,garbage, junk
    Abstract  : เช่น anger, courage, satisfaction,happiness,knowledge
    ชื่อภาษา:  เช่น English,German,Spain
    กีฬาต่างๆ :เช่น hockey, football, tennis
    ชื่อวิชาต่างๆ: เช่น  sociology, medicine, anthropology
    กิจกรรมต่างๆ: swimming, eating
    อื่นๆ : news, money,mail ,work,homework,gossip, education, weather, difficulty, information,feminism, optimism,machinery,information, research,traffic,scenery,breakfast, accomodation, advice, permission
  • มีรูปเอกพจน์   และเมื่อกล่าวถึงเป็นการทั่วๆไป หรือ ไม่ได้กล่าวถึงมาก่อน ไม่ต้องนำด้วย articles  เช่น
    I have bread and butter for breakfast every morning. ( ฉันกินขนมปังและเนยเป็นอาหารเช้าทุกวัน )
    We cannot live without air and water. ( เราไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากอากาศและน้ำ )
    Information is often valuable.( ข้อมูลข่าวสารมักจะมีคุณค่า )
    Sunlight and water are usually required for plants to grow. ( แสงแดดและน้ำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของพืช )
    My favorite breakfast is cereal with fruit, milk, orange juice, and toast.
  • Uncountable nouns ที่ทำหน้าทีประธานของประโยค จะต้องใช้ verb ด้วยหลักการเดียวกับคำนามเอกพจน์ เช่น
    Butter is fattening. ( เนยทำให้อ้วน )
  • ปกติจะมีรูปเป็นเอกพจน์   แต่ทำให้เป็นพหูพจน์ได้โดยบอกจำนวนตามภาชนะที่บรรจุ กลุ่ม น้ำหนัก และลักษณะนาม เช่น
    two cups of water, three pieces of information, five patches of sunlight
    three games of hockey, two lumps of sugar
    I need two lumps of sugar for my coffee.  ฉันกินกาแฟต้องใส่น้ำตาล  2  ก้อน
    Two glasses of milk are enough. นมสองแก้วก็เพียงพอแล้ว  ( ใช้ are  เนื่องจาก glasses เป็นพหูพจน์ )

    เช่น
  • I want an orange. (ไม่ใช่ I want orange.)
    Where is the bottle? ( ไม่ใช่ Where is bottle?)
    Do you want this book?
    I want those books up there
  • เปรียบเทียบการใช้  Quantifiers  ของคำนามทั้งสอง

เช่น
Countable singular :
Out of every  five men only two were fit.  มีผู้ชายสองในทุกๆห้าคนเท่านั้นที่สุขภาพแข็งแรง
I'd like one donut, please. ขอโดนัท 1 ชิ้นครับ
Countable plural:
Can I have some biscuits?  ขอขนมปังกรอบหน่อยได้ไหมคะ
She has a lot of books.  เธอมีหนังสือมากมาย
I have fewer pencils than you. ฉันมีดินสอน้อยกว่าคุณ
Uncountable:
Can I have some water. ขอน้ำหน่อยได้ไหมคะ
She has a lot of strength,and much is due to her upbringing.  เธอเป็นคนที่เข้มแข็งซึ่งเป็นผลมาจากการเลี้ยงดู I
have less courage than you. ฉันมีความกล้าน้อยกว่าคุณ
 3. คำนามที่เป็นได้ทั้ง Countable และ Uncountableคำนามบางคำสามารถเป็นได้ทั้งนามนับได้และนามนับไม่ได้ แล้วแต่การใช้ เช่น
abuse ( ใช้ในทางที่ผิด )faith ( ความเชื่อ )nature  ( ธรรมชาติ )
adulthood ( ความเป็นผู้ใหญ่)fear ( ความกลัว )paper ( กระดาษ )
afternoon ( ตอนบ่าย )fiction ( เรื่องอ่านเล่น )passion ( หลงไหล )
age ( อายุ )film ( ภาพยนต์ )people ( ประชาชน )
anger ( ความโกรธ )fish ( ปลา )personality  ( บุคลิกภาพ )
appearance (สิ่งที่ปรากฏแก่ตา )flavor ( กลิ่น )philosophy  ( ปรัชญา )
art ( ศิลปะ )food ( อาหาร )power ( พลัง )
beauty ( ความสวย )friendship ( ความเป็นเพื่อน )reading ( การอ่าน )
beer ( เบียร์ )fruit ( ผลไม้ )religion ( ศาสนา )
belief  ( ความเชื่อ )glass ( แก้ว )revision ( การทบทวน )
breakfast ( อาหารเช้า )government ( รัฐบาล )rock ( หิน )
cheese ( เนยแข็ง)hair ( ผม )science ( ศาสตร์,วิทยาศาสตร์ )
chicken ( ไก่ )history ( ประวัติศาสตร์ )school ( โรงเรียน )
childhood ( ความเป็นเด็ก )innocence ( ความไร้เดียงสา )shock ( ตกใจ งงงวย )
ตัวอย่างเช่น
I like duck. ฉันชอบกินเนื้อเป็ด ( uncountable noun )
I like ducks. ฉันชอบเป็ด (ชอบสัตว์ที่เรียกว่าเป็ด ) ( countable noun  )
Beer is a bitter drink. เบียร์เป็นเครื่องดื่มที่มีรสขม    ( uncountable noun )
I think I ordered two beers. ฉันคิดว่าฉันสั่งเบียร์ไปสองแก้วนะ ( countable noun  )
Life is full of surprise. ชีวิตเต็มไปด้วยสิ่งที่ทำให้ประหลาดใจ ( uncountable noun )
A cat has nine lives. แมวมีเก้าชีวิต ( countable noun  )
Paper is made from wood. กระดาษทำจากไม้ ( uncountable noun )
She wrote three papers in one week. เธอเขียนเอกสารสามฉบับในหนึ่งสัปดาห์  ( countable noun  )
Religion has been a powerful force in history. ศาสนาเป็นสิ่งที่ทรงอิทธิพลในประวัติศาสตร์ ( uncountable noun )
Many religions are practiced in the United States. มีคนนับถือหลายศาสนาในสหรัฐอเมริกา ( countable noun  )
 4.คำนาม uncountable nouns ที่ไม่นิยมใช้เป็น countable  ( ทำให้เป็น plural ) เช่น
alcohol ( แอลกอฮอล์)knowledge ( ความรู้ )
clothing ( เสื้อผ้า )lighting ( ฟ้าแลบ )
courage ( ความกล้าหาญ )thunder ( ฟ้าผ่า )
freedom (อิสระภาพ )machinery ( เครื่องจักร )
fun ( ความสนุก )money ( เงิน )
furniture ( เครื่องเรือน )music ( ดนตรี )
information ( ข้อมูล ข่าวสาร )scenery ( ทิวทัศน์ )
intelligence ( เชาวน์,ปัญญา)traffic ( การจราจร )

ดาวน์โหลดแบบฝึกหัด การใช้ Countable and Uncountable





(ขอบคุณแบบฝึกหัดดีๆจาก http://en.islcollective.com/)
(ขอบคุณเนื้อหาดีๆจาก http://ict.moph.go.th/English/content/nouns01.htm)

การเรียนเรื่อง My Family พร้อมแบบฝึกภาษาอังกฤษ


My Family

 



(ขอบคุณแบบฝึกหัดดีๆจาก http://en.islcollective.com/)

การเรียนเรื่อง My body พร้อมแบบฝึกภาษาอังกฤษ







(ขอบคุณแบบฝึกหัดดีๆจาก http://en.islcollective.com/)

แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ :: Work sheet :: Present Simple Tense พร้อมแบบฝึกภาษาอังกฤษ







(ขอบคุณแบบฝึกหัดดีๆจาก http://en.islcollective.com/)

วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ :: Fruit พร้อมแบบฝึกภาษาอังกฤษ

มาเรียนเรื่องผลไม้ การเรียกชื่อผลไม้แบบต่างๆกันดีกว่าคะ






(ขอบคุณแบบฝึกหัดดีๆจาก http://en.islcollective.com/)

แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ :: การใช้ some และ any พร้อมแบบฝึกภาษาอังกฤษ

ทั้ง some และ any มีความหมายว่า "บ้าง" แต่ใช้แตกต่างกันดังนี้ 
1. some ใช้กับประโยคบอกเล่า ใช้ได้ทั้งกับนามนับได้และนามนับไม่ได้ 
เช่น
I have some pens. (ฉันพอจะมีปากกาบ้าง)
John wants some water. (John ต้องการน้ำบ้าง)

There are some books on the table. (มีปากกาอยู่บนโต๊ะบ้าง)
There is some sugar in the bowl. (มีน้ำตาลทรายอยู่ในชามบ้าง)
2. any ใช้กับ

2.1 ประโยคปฏิเสธ ใช้ได้ทั้งกับนามนับได้และนามนับไม่ได้ แต่ความหมายจะเปลี่ยนเป็น

"ไม่ ______ เลย" เช่น
I don't have any pens. (ฉันไม่มีปากกาเลยสักด้าม)
John doesn't want any water. (John ไม่ต้องการน้ำเลย)

There aren't any pencils under the table. (ไม่มีดินสออยู่ใต้โต๊ะเลยสักแท่ง)
There isn't any tea in the cup. (ไม่มีน้ำชาอยู่ในถ้วยเลย)

2.2 ประโยคคำถาม ใช้ได้ทั้งกับนามนับได้และนามนับไม่ได้ แต่ความหมายจะเปลี่ยนเป็น

"_______ บ้างไหม" เช่น
Do you have any pens? (คุณมีปากกาบ้างไหม)
Does John want any water? (John ต้องการน้ำบ้างไหม)

Are there any books in the schoolbag? (มีหนังสืออยู่ในกระเป๋าเรียนบ้างไหม) 

Is there any coffee in the cup? (มีกาแฟอยู่ในถ้วยบ้างไหม)






ดาวน์โหลดแบบฝึกหัด การใช้ some และ any





(ขอบคุณเนื้อหาดีๆจาก eduzones.com)
(ขอบคุณแบบฝึกหัดดีๆจาก http://en.islcollective.com/)

islcollective ศูนย์รวมแบบฝึกหัดที่ดีที่สุด

               หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการหาแบบฝึกหัดที่ดีที่สุด และมีความหลากหลายทั้งทางด้านเนื้อหา และแบบฝึกหัด แิอดมินขอเสนอเวปไซต์ islcollective.com เป็นเวปที่มีความพร้อมด้านเื้นื้อหาและแบบฝึกหัดมาก สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ถือว่าเป็นเวปใจดีทีเีดียว
                เนื้อหาและแบบฝึกหัดที่นำมารวบรวมไ้ว้ในเวปนี้ ถือเป็นความประทับใจในเวปไซต์ และชอบแบบฝึกหัดเป็นอย่างมาก คุณครูสามารถเข้าไปดูในเวปหลักได้เลยที่ islcollective.com คะ
และนี่เป็นส่วนหนึ่งของการนำเนื้อหาจากเวปไซต์มาแนะนำให้กับคุณครูของเราได้รู้จักกันคะ

วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

English Song Game :: เพลงภาษาอังกฤษสำหรับเล่นเกม


If you are happy
If you’re happy and you know it,clap your hands.
If you’re happy and you know it,clap your hands.
If you’re happy and you know it, and you really want to show it. If you’re happy and you know it, clap your hands.
                                            ·        Stamp your feet
                                            ·         Nod your head
                                            ·         shout hurray
                                            ·         do all four.

ASEAN Work Sheet :: ใบงานอาเซียนสำหรับเด็กประถม

 อาเซียนหรือ สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  (ASEAN : The Association of South East Asian Nations) ได้ก่อตั้งเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ.2510 โดยประเทศผู้ก่อตั้งอาเซียน คือ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ ต่อมาในปีพ.ศ.2527 บรูไน ดารุสซาลาม ได้เข้ามาเป็นสมาชิก ตามด้วยเวียดนามเข้ามาเป็นสมาชิกเมื่อ พ.ศ. 2538  ขณะที่พม่าและลาวเข้ามาเป็นสมาชิกใน พ.ศ.2540 และประเทศสุดท้ายคือกัมพูชา เข้าเป็นสมาชิกอาเซียน เมื่อ พ.ศ. 2542  ปัจจุบันอาเซียนมีประเทศสมาชิกทั้งหมด 10 ประเทศ ((http://goodworksheet.blogspot.com/2013/03/blog-post.html))
    และนี่คือใบงานอย่างง่ายสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา ที่สามารถนำไปใช้ประกอบการสอนได้ค่ะ
ผู้จัดทำหวังว่า ใบงานชิ้นนี้คงช่วยในการพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนได้ หากมีข้อผิดพลาดประการใด..หวังว่าคงได้รับการชี้แนะนะคะ

ASEAN Worksheet 1 :: วาดธงชาติอาเซียน พร้อมกับระบุประเทศที่อยากไปอยู่มากที่สุด

ASEAN Worksheet 2 :: ความหมายของอาเซียน และ ธงชาติ 10 ประเทศ

ASEAN Worksheet 2 :: ธงชาติ 10 ประเทศ

วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

มาฝึกเล่นรูบิค (rubik) ของเล่นลับสมองกัน

    การเล่นรูบิค นั้นเป็นการพัฒนาสมอง และการแก้ปัญหาโดยการวิเคราะห์อย่างสลับซับซ้อน ผู้เล่นต้องฝึกทักษะการจำเป็นอย่างมาก เพราะเพียงแค่หมุนรูบิคเพียงแค่ครั้งเดียวอาจทำให้สับสน หรือ ผิดสี ได้ ดังนั้น ผู้เล่นต้องมีสมาธิ ใจรัก และ อดทนเป็นอย่างมาก
     สูตรลัดการเรียนรูบิคมีมากมาย แต่ต้องอาศัยความพยายามในการฝึกฝน ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ หรือผู้ที่สนใจมาเล่นรูบิคนะคะ

ประวัติย่อ
 ลูกบาศก์ของรูบิค หรือที่เรียกกันว่า ลูกรูบิค เป็นของเล่นลับสมอง ประดิษฐ์ขึ้นในปี ค.ศ. 1974
              โดย เออร์โน รูบิค (Ernö Rubik) ซึ่งเป็น ประติมากร และ ศาสตราจารย์ในสาขาสถาปนิก ชาวฮังการี โดยทั่วไป ตัวลูกบาศก์นั้นทำจากพลาสติก แบ่งเป็นชิ้นย่อยๆ 26 ชิ้น ประกอบกันเป็นรูปลูกบาศก์ที่สามารถบิดหมุนไปรอบๆ ได้ ส่วนที่มองเห็นได้ของแต่ละด้าน จะประกอบด้วย 9 ส่วนย่อย ซึ่งมีสีทั้งหมด 6 สี ส่วนประกอบที่หมุนไปมาได้นี้ทำให้ การจัดเรียงสีของส่วนต่างๆ สลับกันได้หลายรูปแบบ จุดประสงค์ของเกมคือ การจัดเรียงให้แถบสีทั้ง 9 ที่อยู่ในด้านเดียวกันของลูกบาศก์ ซึ่งมีทั้งหมด 6 ด้านนั้น มีสีเดียวกัน
              เออร์โนได้จดสิทธิบัตร HU170062 สิ่งประดิษฐ์ ในชื่อ “ลูกบาศก์มหัศจรรย์” (Magic Cube) ในปี ค.ศ. 1975 ที่ประเทศฮังการี แต่ไม่ได้ทำการจดสิทธิบัตรนานาชาติ ซึ่งเมื่อมีการผลิต รูบิค ออกวางจำหน่ายได้ไม่นานก็ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยการบอกเล่าปากต่อปาก จากเดิมที่ฮิตกันแค่ในประเทศฮังการีต่อมาก็มีการขยายความนิยมไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งแพร่หลายไปทั่วโลก
              

     มาดูน้องๆ เขาสอนรูบิคกัน...อายุเป็นเพียงตัวเลข ผู้มีความรู้สามารถเป็นครูของเราได้...แม้จะเยาว์วัยก็ตาม

ขั้นที่ 1

ขั้นที่ 2

ขั้นที่ 3

ขั้นที่ 4

ขั้นที่ 5

แนวข้อสอบบรรจุครูผู้ช่วย


๑) ความหมายของการศึกษาตม พรบ.กศ.2542 หมายถึงข้อใด
ก. การอบรมสั่งสอนให้เกิด ความเจริญงอกงาม
ข. การเห็นตนเองเพื่อประโยชน์แก่ตนเอง
ค. การพัฒนามนุษย์โดยส่งเสริมให้มีความเจริญงอกงามอย่างเป็นอิสระ
ง. กระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคมโดยการ ถ่ายทอดความรู้ การฝึก การอบรมการสืบสานทางวัฒนธรรม

๒) หลักสูตร ครอบคลุมชีวิตประจำวันครู ไม่เป็นผู้ออกคำสั่ง ทำหน้าที่ในการแนะแนวทางให้แก่ผู้เรียนผู้เรียนจะต้องมีอิสระในการเลือก ตัดสินใจ โรงเรียน ทำหน้าที่เป็นแบบจำลองสังคม การสอนที่ยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง (Child centered)สอดคล้องกับปรัชญาในข้อใด
ก. ปรัชญาการศึกษาสารัตถนิยม
ข. ปรัชญาการศึกษานิรันตรนิยม
ค. ปรัชญาการศึกษาพิพัฒนาการนิยม
ง. ปรัชญาการศึกษาปฏิรูปนิยม

๓) ลักษณะของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 คือข้อใด
ก. หลักสูตรอิงวิชาการ
ข. หลักสูตรอิงคุณภาพ
ค. หลักสูตรอิงมาตรฐาน
ง. หลักสูตรอิงสาระการเรียนรู้

๔) “เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อปวงชน ประชาชนทุกคน มีโอกาสได้รับการศึกษาอย่างเสมอภาคและมีคุณภาพ”ข้อความดังกล่าวเกี่ยวข้องในข้อใด
ก. หลักการของหลักสูตร
ข. จุดหมายของหลักสูตร
ค. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
ง. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
๕) ข้อใดคือสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนทั้งหมด
ก. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัยใฝ่เรียนรู้
ข. ความสามารถในการสื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา และมี จิตสาธารณะ
ค. ความสามารถในการสื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้ ทักษะชีวิต และการใช้เทคโนโลยี
ง. ความสามารถในการสื่อสาร การคิด มุ่งมั่นในการทำงานรักความเป็นไทยและ มีจิตสาธารณะ

๖) รายวิชาประวัติศาสตร์ กำหนดให้จัดเพิ่มเติมเป็นพิเศษข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. จัดเป็นรายวิชาเพิ่มเติมในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ
ข. จัดเป็นรายวิชาบังคับในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ
ค. จัดเป็นรายวิชาพื้นฐานในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ
ง. จัดเป็นรายวิชาพื้นฐาน แยกเป็นกลุ่มสาระการเรียนรู้โดยเฉพาะ

๗) ข้อใด ไม่ใช่ จุดหมายของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
ก. จุดหมายมี 5 ข้อ
ข. เป็นการศึกษาเพื่อปวงชน
ค. มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีมีสุขนิสัยและรักการออกกำลังกาย
ง. มีความรู้อันเป็นสากลและมีความสามารถในการสื่อสาร การคิดการแก้ปัญหา การใช้ เทคโนโลยีและมีทักษะชีวิต

๘) ข้อใดเกี่ยวข้องกับ “รายวิชาเพิ่มเติม”
ก. มีมาตรฐาน การเรียนรู้ เป็นเป้าหมาย ในการพัฒนาผู้เรียน
ข. มีตัวชี้วัดเป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียน
ค. มีมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดเป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียน
ง. มีผลการเรียนรู้เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียน

๙) ข้อใดไม่ใช่กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ก. กิจกรรมแนะแนว
ข. กิจกรรมนักเรียน
ค. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์
ง. กิจกรรมพิเศษ
๑๐) การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนต้องอยู่บนหลักการพื้นฐานตามข้อใด
ก. ประเมินเพื่อตัดสินผลการเรียน
ข. ประเมินเพื่อพัฒนาผู้เรียน
ค. ประเมินเพื่อตีคุณค่า
ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข
๑๑) การวัดและประเมินผลการเรียนรู้แบ่งออกเป็นกี่ระดับ
ก. 2 ระดับ
ข. 3 ระดับ
ค. 4 ระดับ
ง. 5 ระดับ
๑๒) ข้อใดไม่ใช่การประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน
ก. การประเมินระดับชั้นเรียน
ข. การประเมินระดับสถานศึกษา
ค. การประเมินระดับเขตพื้นที่การศึกษา
ง. ถูกทุกข้อ
๑๓) ข้อใดไม่เป็นเกณฑ์การตัดสินผลการเรียนระดับประถมศึกษา
ก. ผู้เรียนต้องมีเวลาเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียนทั้งหมด
ข. ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินทุกตัวชี้วัด และผ่านตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด
ค. ผู้เรียนต้องได้รับการตัดสินผลการเรียนทุกรายวิชา
ง. เป็นเกณฑ์การตัดสินผลการเรียนระดับประถมศึกษาทุกข้อ
๑๔) ระดับประถมศึกษา ในการตัดสินเพื่อให้ระดับผลการเรียนรายวิชา สถานศึกษาสามารถให้ระดับผลการเรียนหรือระดับคุณภาพการปฏิบัติของผู้เรียนได้ ตามข้อใด
ก. ระบบตัวเลข
ข. ระบบตัวอักษร
ค. ระบบร้อยละ
ง. ถูกทุกข้อ
๑๕) การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์นั้น ให้ระดับผลการประเมินตามข้อใด
ก. ดีเยี่ยม ดี และผ่าน
ข. ดีเยี่ยม ดี และปรับปรุง
ค. ดีเยี่ยม ดี และพอใช้
ง. ผ่าน และ ไม่ผ่าน
๑๖) ข้อใดเป็นเกณฑ์การจบระดับประถมศึกษา
ก. ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐานและรายวิชา/
กิจกรรมเพิ่มเติมตามโครงสร้างเวลาเรียนที่
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
กำหนด
ข. ผู้เรียนต้องมีผลการประเมินรายวิชาพื้นฐาน
ผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่สถานศึกษา
กำหนด
ค. ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิด
วิเคราะห์และเขียนในระดับผ่านเกณฑ์การ
ประเมินตามที่สถานศึกษากำหนด
ง. ถูกทุกข้อ
๑๗) เอกสารหลักฐานการศึกษาแบ่งออกเป็นกี่ประเภท
ก. 2 ประเภท คือ ระเบียนแสดงผลการเรียน
และประกาศนียบัตร
ข. 2 ประเภท คือ ระเบียนแสดงผลการเรียน
และแบบรายงานผู้สำเร็จการศึกษา
ค. 2 ประเภท คือ ประกาศนียบัตรและแบบ
รายงานผู้สำเร็จการศึกษา
ง. 2 ประเภท คือ เอกสารหลักบานการศึกษาที่ กระทรวงศึกษาธิการกำหนดและเอกสารหลักฐานการศึกษาที่สถานศึกษากำหนด

๑๘) ลักษณะเด่นในการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ ข้อใดกล่าวผิด
ก. เรียนรู้จากสภาพจริง
ข. สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง
ค. ฝึกกระบวนการกลุ่ม
ง. ทันสมัยก้าวทันวิทยาการสมัยใหม่

๑๙)ข้อใดเป็นการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
ก. ผู้เรียนเรียนรู้จากประสบการณ์
ข. ผู้เรียนเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม
ค. ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง
ง. ถูกทุกข้อ
๒๐) การปฏิรูปการเรียนรู้ตาม พรบ. การศึกษา 42 ข้อใดกล่าวผิด
ก. เน้นกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน
ข. ครูต้องจัดบรรยากาศส่งเสริมการเรียนรู้
ค. ให้ความสำคัญการเรียนรู้มากกว่าการสอน
ง. ให้อิสระผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเองตามลำพัง

๒๑)“ แนวคิดของเพียเจต์” สอดคล้องกับการเรียนรู้ข้อใด
ก. การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
ข. การจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้
ค. การจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการแก้ปัญหา
ง. การจัดการเรียนรู้ส่งเสริมกระบวนการคิดด้วยหมวก 6 ใบ
๒๒)การเรียนรู้แบบโครงงานสอดคล้องกับข้อใด
ก. การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
ข. การจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้
ค. การจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการแก้ปัญหา
ง. การจัดการเรียนรู้ส่งเสริมกระบวนการคิดด้วยหมวก 6 ใบ

๒๓)ปัญหาที่นำมาใช้ในบทเรียนมาจากแหล่งใดสำคัญที่สุด
ก. ภาพเหตุการณ์
ข. การเล่าเรื่อง
ค. ข่าวเหตุการณ์
ง. ชีวิตประจำวัน

๒๔) สมมติฐานสอดคล้องกับข้อใด
ก. สิ่งที่ต้องการแก้ไข
ข. แนวทางในการแก้ปัญหา
ค. การเดาคำตอบล่วงหน้า
ง. คุณลักษณะของสิ่งที่ศึกษา

๒๕) การเรียนรู้แบบหมวก 6 ใบสอดคล้องกับข้อใด
ก. การเรียนรู้ด้วยการใช้คำถาม
ข. การเรียนรู้ด้วยการแก้ปัญหา
ค. การเรียนรู้แบบโครงงาน
ง. การเรียนรู้จากภูมิปัญญาท้องถิ่น

๒๖)หมวกสีขาว เปรียบเทียบกับการคิดในข้อใด
ก. ข้อมูล ตัวเลข ข้อเท็จจริง
ข. ความรู้สึก อารมณ์ ความประทับใจ
ค. เหตุผล ความเหมาะสม
ง. คิดทางบวก การยอมรับ

๒๗) บิดาแห่งจิตวิทยาการทดลองคือใคร
ก. สกินเนอร์
ข. วิลเลี่ยม วุ้นท์
ค. ฟาฟลอฟ
ง. ธอร์นไดค์

๒๘)Sigmund Freud อยู่ในกลุ่มนักจิตวิทยาใด
ก. โครงสร้างจิต
ข. หน้าที่จิต
ค.จิตวิเคราะห์
ง. พฤติกรรมนิยม

๒๙) Learning by doing เป็นแนวคิดนักจิตวิทยาใด
ก. Rogers
ข. Maslow
ค. John Dewey
ง. Freud

๓๐)ทฤษฎีพัฒนาบุคลิกภาพ คือนักจิตวิทยาในข้อใด
ก. รุสโซ
ข. ฟรอยด์
ค. ธอร์นไดค์
ง. สกินเนอร์





ขอบคุณที่มาดีๆ จาก http://www.krupuchoi.com/ และ 

สื่อการสอน POWER POINT PRESENTATION – FRUITS

Topic  : Fruits Pages  : 13 Detail  : เนื้อหาในเรื่องเป็นเรื่องของผลไม้ ซึ่งเมื่อเปิดหน้าแรก นักเรียนจะได้พบกับวงล้อผลไม้ที่หมุนไม่หยุด...