วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Story Telling :: ราพันเซล เจ้าหญิงผมยาว [Rapunzel]

          ในแต่ละปี กิจกรรมการแข่งขันภาษาอังกฤษมีให้คุณครูได้เลือกฝึกสอนเด็กนักเรียนเพื่อให้มีความพร้อมในการแข่งขันหลายรายการ และรายการหนึ่งที่น่าสนใจ คือ กิจกรรมเล่านิทานภาษาอังกฤษ (Story Telling) เพราะ เป็นกิจกรรมที่เป็นเนื้อหาที่เราเลือกเอง กำำักับเอง และโอกาสที่เปลี่ยนแปลงรายละเอียดการแข่งขันน้อยมาก ดังนั้น กิจกรรมการแข่งขันเล่านิทานจึงเป็นกิจกรรมที่คุณครูหรือผู้ฝึกซ้อมสามารถดูแลกำกับเองตลอดรายการ และค้นหานักเรียนที่มีความกล้าแสดงออกมาแสดงบทบาทในการถ่ายทอดภาษาให้ดูน่าฟัง คล้อยไปตามเนื้อเรื่องให้ได้ และนี่คือเรื่องราวนิทานที่ได้รับการยอมรับและมีเชื่อเสียงที่ให้เนื้อหาที่ดี มีคติสอนใจ ที่คุณครูสามารถนำมาปรับ/ประยุกต์ใช้ เื่พื่อนำไปใช้ในการแข่งขันได้ค่ะ

         เรื่องย่อ เป็นเรื่องเล่าของเ้จ้าหญิงผมยาวที่ถูกกักขังไว้ในหอคอยกลางป่ามาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน แต่เมื่อช่วงจังหวะชีวิตของเธอได้เจอชายหนุ่มชื่อฟลิน ที่ทำให้ชีวิตของเธอมีความสุขมากขึ้น แต่ท่ามกลางความสุขนั้น เธอกับเขาจะหนีออกไปจากหอคอยนี้ได้อย่างไรในเมื่อมีกอเธล(คนที่ลักพาตัวราพันเซลมาตั้งแต่เด็กดูแลและคุมขังเธออย่างใกล้ชิด เรื่องราวของความตื่นเต้นกำลังเริ่มต้นขึ้นและพวกเขาจะหาทางออกได้หรือไม่ เรื่องราวจะจบลงอย่างไร หาคำตอบได้ตามร้านหนังสือทั่วไปค่ะ
        เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การมีสติทำให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดาย และความเห็นแก่ตัวของบุคคลหนึ่งนำมาซึ่งการทำลายหรือสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น
        จุดเด่นของเรื่องนี้ คือ การแสดงท่าทางและน้ำเสียงของราพันเซล ที่เน้นให้ราพันเซลเป็นบุคคลที่ร้องเพลงเพราะ เนื้อเรื่องเวลาเล่าควรมีบทร้องให้กับผู้แสดง และใส่น้ำเสียงและอารมณ์โศกเศร้าเสียใจในขณะที่คนรักตายให้มากและสมจริงที่สุดเพราะเป็นฉากที่สำคัญในตอนท้ายของเรื่อง 
        ขอแนะนำ สำหรับเรื่องนี้จะน่าฟังมากขึ้นถ้าผู้เล่าทำหน้าตาหรือท่าทางสื่อสารให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่อง และได้รับความนิยมในการแข่งขันเล่านิทานเพราะเป็นเรื่องที่น่าฟัง มีฉากตื่นเต้นหลายครั้งและจะพิเศษมากขึ้นหากผู้แสดง/ผู้เล่าสามารถร้องเพลงได้ไพเราะอย่างเช่นราพันเซล


ศึกษาเนื้อหา Rapunzel เพิ่มเติมได้ที่ http://goodworksheet.circlecamp.com/?page=StoryTellingRapunzel&language=th

วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เทคนิคการเล่านิทานเพื่อสอนภาษาอังกฤษ

          นิทานจัดว่าเป็นสื่อที่ดีเหมาะที่จะนำไปสอนภาษาอังกฤษ เนื้องจากเนื้อเรื่องน่าสนใจและภาพประกอบที่เพลิดเพลิน มีคติสินใจ เมื่อนำมาเล่าแล้วทำให้เด็กมีประสบการณ์ในการทำสิ่งที่ออกจากปากผู้เล่าจริงๆ ทั้งในส่วนคำพูดและท่าทางที่จะช่วยให้เด็กสนุกและเข้าใจเรื่องที่ฟัง จึงทำให้เด็กๆ สนใจอยากเรียนรู้ดังนั้นนิทานจึงเหมาะแก่การนำไปสอนเด็กๆ สนใจอยากเรียนรู้ ดังนั้นนิทานจึงเหมาะแก่การนำไปสอนเด็ก ซึ่งต่อไปนี้เป็นเทคนิคที่ครูสามารถนำไปใช้ได้

            การเลือกเรื่อง            
                1.เรื่องที่เลือกมาสอนต้องเป็นเรื่องที่เด็กสามารถมีกิจกรรมและมีส่วนร่วมกับเรื่องได้ดี โดยเฉพาะในช่วงที่ครูจะเล่าเรื่อง เพราะจะช่วยกระตุ้นให้เด็กเกิดความสนใจและอยากติดตาม
                2.เนื้อเรื่องควรเป็นเนื้อเรื่องที่ครูชอบและคิดว่าเด็กชอบ รวมทั้งอาจเนเรื่องที่อยู่ในความสนใจในขณะนั้น
                3.มีความยาวเหมาะกับเวลาที่สอน ควรให้จบในชั่วโมงนั้นๆ เพราะถ้ายาวมากจะทำให้เด็กเบื่อได้ ควรเลือกเรื่องที่เปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้ภาษาจากนิทานได้มากที่สุด
                4.ควรเลือกเรื่องที่ครูสามารถเล่าได้ดี

            การเตรียมตัวก่อนการเล่า1.ต้องกระตุ้นอารมณ์ให้เด็กอยากทำในสิ่งที่ครูเล่าให้ได้มากที่สุด
2.พยายามให้เด็กได้ใล้ชิดกับครูมากที่สุดเพื่อให้เกิดความรู้สึกร่วมในการเล่าและฟังนิทานของครูและเด็ก
3.ลองจัดที่นั่งให้เด็กใหม่ หรือให้เด็กลงนั่งที่พื้นล้อมรอบตัวครูก็ได้ เพื่อสร้างบรรยากาศแปลกใหม่และพิเศษ
4.หาอุปกรณ์ที่ดึงดูดให้เด็กสนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชั่วโมงนั้น เช่น นำตุ๊กตามาสมมติเป็นตัวละคร หรือการนำเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับเนื้อเรื่องมาใส่ในขณะที่เล่า
5.นำเพลงที่ใช้ประกอบเนื้อเรื่องมาเปิด เพื่อใช้เสียงเพลงกระตุ้นความรู้สึกของเด็ก
6.ในชั่งโมงที่มีการเล่าให้เขียนบนกระดานว่า Story time ทุกครั้ง เพื่อให้เด็กรับทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้น    7.นำอุปกรณ์ที่ครูนำมาประกอบเล่านิทานให้เด็กดูก่อนเริ่มเล่า เพื่อดึงดูดความสนใจและอาจเปิดโอกาสสอนคำศัพท์ของปอุปกรณ์แต่ละชิ้นไปด้วย

            วิธีการเล่านิทาน
1.พูดคุยกับเด็กในหัวข้อที่เกี่ยวกับนิทาน อจเป็นประสบการณ์ของครูเองหรือของเด็กคนใดคนหนึ่งเป็นการเล่าสู่นิทานที่ดี
2.ให้เริ่มด้วยการบอกเด็กเป็นประโยคภาษาอังกฤษ เช่น I'm going to tell you a story about ...
3.เริ่มด้วยประโยค Onece upon a time ที่แปลว่า กาลครั้งหนึ่ง เพื่อเด็กจะสามารถจัดรูปแบบการเล่านิทานจากครูได้โดยไม่ต้องสอน
4.ก่อนเริ่มกิจกรรมการเล่านิทานให้เตรียมเด็กให้พร้อมเสียก่อน เมื่อเริ่มเล่าแล้วจะได้เล่าต่อไปเรื่อยๆ จนจบให้มีอารมณ์ต่อเนื่องไม่ติดขัด

            สิ่งที่ครูควรทำ1.เล่านิทานด้วยความเป็นตัวของตัวเองเพื่อให้เด็กรู้สึกท่าทางการเล่าเป็นไปโดยธรรมชาติ ควรมีการเตรียมการซ้อมมาก่อน เพื่อกันข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น
2.ใช้นำเสียงให้เหมาะกับเนื้อเรื่องและอารมณ์ของตัวละครที่สวมบทบาทอยู่ มีการใช้เสียงสูง ตำ เป็นจังหวะ โดยเมื่อถึงจุดสำคัญของเรื่องควรเปิดโอกาสให้เด็กมีส่วรร่วมเป็นการตั้งคำถามเป็นภาษาอังกฤษในขณะที่เด็กกำลังอยู่ในอารมณ์ร่วมอยู่ โดยอาจใบ้เป็นท่าทางตามเรื่องเพื่อให้เด็กเกิดความสนุกสนานมากขึ้น
3.ควรใช้ท่าทางและสีหน้าประกอบการเล่า และพยายามให้เด็กมีโอกาส ทำกิจกรรมที่เคลื่อนไหวโดยอาจให้เด็กทำท่าทางตามตัวละครในเนื้อเรื่อง โดยมีครูเป็นผู้ออกเสียง พูดประโยคตามท่าทางนั้นอย่างช้าๆ เพื่อให้เด็กจำท่าทางและสำเนียงของภาษาพร้อมกับเพลิดเพลิน นอกจากนี้นักเรียนยังเกิดความรู้สึกว่าตนเองมีส่วนร่วมอยู่ตลอดเวลา ทำให้การเรียนรู้สนุกยิ่งขึ้น
4.ไม่ต้องอ่านเร็วเพราะภาษาในหนังสือค่อนข้างสั้น อาจทำให้เด็กเข้าใจยาก และครูอาจอ่านนิทานเพลินจนลืมให้เด็กที่นั่งฟังมีส่วนร่วม
5.ครูควรเตรียมคำศัพท์และวลีที่สำคัญที่คิดว่าเด็กสนใจ โดยครูอาจเตรียมท่องจำประโยคมาล่วงหน้า และสอดแทรกประโยคเพิ่มเติมตามสถานการณ์ขณะเล่า และจำไว้ว่าต้องเล่าอย่างมีชีวิตชีวา ให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นนิทานของเด็กทุกคนในห้อง

Reference :: 
สุมิตรา อังวัฒนกุล, แนวคิดและเทคนิคการสอนภาษาอังกฤษ. สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย



วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Story Telling :: หนูน้อยหมวกแดง [Red Riding Hood]

          ในแต่ละปี กิจกรรมการแข่งขันภาษาอังกฤษมีให้คุณครูได้เลือกฝึกสอนเด็กนักเรียนเพื่อให้มีความพร้อมในการแข่งขันหลายรายการ และรายการหนึ่งที่น่าสนใจ คือ กิจกรรมเล่านิทานภาษาอังกฤษ (Story Telling) เพราะ เป็นกิจกรรมที่เป็นเนื้อหาที่เราเลือกเอง กำำักับเอง และโอกาสที่เปลี่ยนแปลงรายละเอียดการแข่งขันน้อยมาก ดังนั้น กิจกรรมการแข่งขันเล่านิทานจึงเป็นกิจกรรมที่คุณครูหรือผู้ฝึกซ้อมสามารถดูแลกำกับเองตลอดรายการ และค้นหานักเรียนที่มีความกล้าแสดงออกมาแสดงบทบาทในการถ่ายทอดภาษาให้ดูน่าฟัง คล้อยไปตามเนื้อเรื่องให้ได้ และนี่คือเรื่องราวนิทานที่ได้รับการยอมรับและมีเชื่อเสียงที่ให้เนื้อหาที่ดี มีคติสอนใจ ที่คุณครูสามารถนำมาปรับ/ประยุกต์ใช้ เื่พื่อนำไปใช้ในการแข่งขันได้ค่ะ
หนูน้อยหมวกแดง [Red Riding Hood]

เรื่องย่อ เป็นเรื่องเล่าของหนูน้อยหมวกแดงที่เดินทางไปหาคุณยายที่กลางป่า แล้วเจอกับหมาป่าจอมเจ้าเลห์ที่พยายามหาทางกินหนูน้อยหมวกแดงให้ได้ โดยการปลอมตัวเป็นคุณยาย ในตอนท้ายของเรื่อง หนูน้อยหมวกแดงก็สามารถหนีหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์ตัวนี้ได้ แต่จะโดยวิธีใดนั้น หาคำตอบได้ตามร้านหนังสือทั่วไปค่ะ
        เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การมีสติทำให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดาย และการรู้จักสังเกตสิ่งต่างๆรอบตัวทำใ้ห้เราสามารถแยกแยะสิ่งที่ผิดปกติได้อย่างเช่นหนูน้อยหมวกแดงคนนี้ไง
        จุดเด่นของเรื่องนี้ คือ การแสดงท่าทางและน้ำเสียงของหมาป่าที่ผู้เล่าต้องออกน้ำเสียงและท่าทางให้เต็มที่และให้น่ากลัวที่สุด ส่วนบทของคุณยายจะต้องมีการดัดแปลงเสียงให้สั่นเครือตลอดเวลา และบทน่ารักๆๆของหนูน้อยหมวกแดงก็แสดงออกให้ชัดเจน และใช้เสียงธรรมดาของผู้เล่าเป็นตัวเล่าเรื่อง
        ขอแนะนำ สำหรับเรื่องนี้จะน่าฟังมากขึ้นถ้าผู้เล่าทำหน้าตาหรือท่าทางสื่อสารให้เหมาะสมกับเนื่อเรื่อง

ศึกษาเนื้อหา Red Riding Hood เพิ่มเติมได้ที่  http://goodworksheet.circlecamp.com/index.php?page=StoryRedRiddingHood




Thank You  


Story Telling :: โกลดิล็อคส์ักับหมีสามตัว[Goldilocks and the three bears]

         ในแต่ละปี กิจกรรมการแข่งขันภาษาอังกฤษมีให้คุณครูได้เลือกฝึกสอนเด็กนักเรียนเพื่อให้มีความพร้อมในการแข่งขันหลายรายการ และรายการหนึ่งที่น่าสนใจ คือ กิจกรรมเล่านิทานภาษาอังกฤษ (Story Telling) เพราะ เป็นกิจกรรมที่เป็นเนื้อหาที่เราเลือกเอง กำำักับเอง และโอกาสที่เปลี่ยนแปลงรายละเอียดการแข่งขันน้อยมาก ดังนั้น กิจกรรมการแข่งขันเล่านิทานจึงเป็นกิจกรรมที่คุณครูหรือผู้ฝึกซ้อมสามารถดูแลกำกับเองตลอดรายการ และค้นหานักเรียนที่มีความกล้าแสดงออกมาแสดงบทบาทในการถ่ายทอดภาษาให้ดูน่าฟัง คล้อยไปตามเนื้อเรื่องให้ได้ และนี่คือเรื่องราวนิทานที่ได้รับการยอมรับและมีเชื่อเสียงที่ให้เนื้อหาที่ดี มีคติสอนใจ ที่คุณครูสามารถนำมาปรับ/ประยุกต์ใช้ เื่พื่อนำไปใช้ในการแข่งขันได้ค่ะ



โกลดิล็อคส์ักับหมีสามตัว[Goldilocks and the three bears]
       เรื่องย่อ เป็นเรื่องราวของหนูน้อยผมทองได้เดินทางเข้าไปในป่าแ้ล้วพบบ้านของหมี 3 ตัว แล้วโกลดิล็อคส์ก็เข้าไปในบ้านและถือวิสาสะกินอาหารที่อยู่บนโต๊ะจนหมด จากนั้นเธอก็เข้าไปในห้องนอนและนอนบนเตียงของหมี 3 ตัว เมื่อหมี 3 ตัวมาเจอ เรื่องราวอันวุ่นวายก็เลยเกิดขึ้น ติดตามเรื่องราวเต็มๆๆของโกลดิล็อคส์ได้ตามร้านหนังสือทั่วไป
         เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การเข้าไปในบ้านหรือสถานที่อื่นๆโดย ไม่ได้รับอนุญาตเป็นสิ่งที่ไม่ดี
         จุดเด่นของเรื่องนี้ คือ การเล่านิทานผ่านเสียงตัวละครที่แตกต่างอย่างชัดเจน และตัวละครไม่เยอะ ดังนั้น ผู้เล่าสามารถเลียนเสียงออกเป็น 4 เสียง คือ เสียงทุ้ม(สำหรับพ่อ) เสียงหวาน(สำหรับแม่) เสียงเล็กๆใสๆ(สำหรับลูก) และเสียงแหลมๆ(สำหรับโกลดิล็อคส์) ได้เลยและใช้เสียงธรรมดาของผู้เล่าเป็นตัวเล่าเรื่อง
        ขอแนะนำ สำหรับเรื่องนี้จะน่าฟังมากขึ้นถ้าผู้เล่าทำหน้าตาหรือท่าทางสื่อสารให้เหมาะสมกับเนื่อเรื่อง

ศึกษาเนื้อหา Goldilocks and the three bears เพิ่มเติมได้ที่
http://goodworksheet.circlecamp.com/index.php?page=goldilocks



Thank You 
Video Reference :: https://www.youtube.com/watch?v=Oaw-d3r_gIc

วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Spelling Bees :: บัญชีคำืพื้นฐานภาษาอังกฤษ ป.4 - ป. 6

Spelling Bee :: เก่งศัพท์ภาษาอังกฤษ ภายใน 10 วัน (PDF)

             หากต้องการให้ลูก หรือ นักเรียนเก่งคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ผู้ปกครองหรือครูควรเอาใจใส่ลูกด้านการสะกดคำเป็นพิเศษเพราะเป็นพื้นฐานการอ่านออกเขียนได้
             วันนี้เรามาฝึกการสะกดคำศัพท์กันวันละ 100 คำ โดยใช้เวลา 10 วันต่อรอบ ถ้าเราฝึกรอบแรกได้คะแนนน้อยก็ไม่ต้องตกใจ ฝึกไปเรื่อยๆๆ โดย เรามี 10 ชุด ใช้เวลา 10 วัน
             ดังนั้น เมื่อครบ 10 วัน เราก็กลับมาทบทวนกันใหม่ ทำซ้ำกันไปเรื่อยๆแล้วลูก/นักเรียนของเราก็จะเก่งเองค่ะ แต่ว่าคุณพ่อคุณแม่/คุณครูต้องอาศัยความพยายามและใจเย็นๆๆกับผลผลิตที่ตกผลึกมาจากลูกหลานของเรานะคะ
วันที่ 1

วันที่ 2

วันที่ 3

วันที่ 4

วันที่ 5

วันที่ 6

วันที่ 7

วันที่ 8

วันที่ 9

วันที่ 10

คลังคำศัพท์ Spelling bee พร้อมตัวอย่างประโยค

  กิจกรรม Spelling bee ทุกคนต่างหาคำศัพท์ต่างๆมาฝึกนักเรียนเพื่อให้เกิดทักษะการเขียน แน่นอนว่าเมื่อมีการแข่งขันแล้ว ครูทุกคนย่อมค้นหาประโยคง่ายๆเพื่อประกอบการใช้คำศัพท์ วันนี้ครูตุ้มขอเสนอคำศัพท์ง่ายๆที่เขียนไว้เพื่อใช้ในการฝึกนักเรียนมาแบ่งปัน อาจจะเป็นเนื้อหาหรือประโยคง่ายๆ แต่บางครั้งก็มีการนำเสนอประโยคที่ผิดไวยากรณ์บ้าง ดังนั้น คุณครูหรือผู้รู้สามารถให้คำแนะนำได้นะคะ

1. teacher - My mother is a teacher.
2. refrigerator - I bought a refrigerator at Lotus.
3. chocolate - This chocolate is very sweet and tasty.
4. Kate stays in Pattaya the weekend.
5. I like fried rice for breakfast.
6. beautiful - Sandra is the most beautiful girl in the classroom.
7. intelligent Anna is intelligent, and I expect her to pass the exam easily.

>>>> คลิกดูคำศัพท์ทั้งหมดที่นี่ Click!!

Spelling Bees :: บัญชีคำืพื้นฐานภาษาอังกฤษ ป.1 - ป. 3

Spelling Bee :: เก่งศัพท์ภาษาอังกฤษ ภายใน 10 วัน (PDF)

             หากต้องการให้ลูก หรือ นักเรียนเก่งคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ผู้ปกครองหรือครูควรเอาใจใส่ลูกด้านการสะกดคำเป็นพิเศษเพราะเป็นพื้นฐานการอ่านออกเขียนได้
             วันนี้เรามาฝึกการสะกดคำศัพท์กันวันละ 100 คำ โดยใช้เวลา 10 วันต่อรอบ ถ้าเราฝึกรอบแรกได้คะแนนน้อยก็ไม่ต้องตกใจ ฝึกไปเรื่อยๆๆ โดย เรามี 10 ชุด ใช้เวลา 10 วัน
             ดังนั้น เมื่อครบ 10 วัน เราก็กลับมาทบทวนกันใหม่ ทำซ้ำกันไปเรื่อยๆแล้วลูก/นักเรียนของเราก็จะเก่งเองค่ะ แต่ว่าคุณพ่อคุณแม่/คุณครูต้องอาศัยความพยายามและใจเย็นๆๆกับผลผลิตที่ตกผลึกมาจากลูกหลานของเรานะคะ
วันที่ 1

วันที่ 2

วันที่ 3

วันที่ 4

วันที่ 5

วันที่ 6

วันที่ 7

วันที่ 8

วันที่ 9

วันที่ 10

คลังคำศัพท์ Spelling bee พร้อมตัวอย่างประโยค

  กิจกรรม Spelling bee ทุกคนต่างหาคำศัพท์ต่างๆมาฝึกนักเรียนเพื่อให้เกิดทักษะการเขียน แน่นอนว่าเมื่อมีการแข่งขันแล้ว ครูทุกคนย่อมค้นหาประโยคง่ายๆเพื่อประกอบการใช้คำศัพท์ วันนี้ครูตุ้มขอเสนอคำศัพท์ง่ายๆที่เขียนไว้เพื่อใช้ในการฝึกนักเรียนมาแบ่งปัน อาจจะเป็นเนื้อหาหรือประโยคง่ายๆ แต่บางครั้งก็มีการนำเสนอประโยคที่ผิดไวยากรณ์บ้าง ดังนั้น คุณครูหรือผู้รู้สามารถให้คำแนะนำได้นะคะ

1. teacher - My mother is a teacher.
2. refrigerator - I bought a refrigerator at Lotus.
3. chocolate - This chocolate is very sweet and tasty.
4. Kate stays in Pattaya the weekend.
5. I like fried rice for breakfast.
6. beautiful - Sandra is the most beautiful girl in the classroom.
7. intelligent Anna is intelligent, and I expect her to pass the exam easily.

>>>> คลิกดูคำศัพท์ทั้งหมดที่นี่ Click!!

Spelling Bees บัญชีคำืพื้นฐานภาษาอังกฤษ

Spelling Bee :: เก่งศัพท์ภาษาอังกฤษ ภายใน 10 วัน (PDF)

             หากต้องการให้ลูก หรือ นักเรียนเก่งคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ผู้ปกครองหรือครูควรเอาใจใส่ลูกด้านการสะกดคำเป็นพิเศษเพราะเป็นพื้นฐานการอ่านออกเขียนได้
             วันนี้เรามาฝึกการสะกดคำศัพท์กันวันละ 100 คำ โดยใช้เวลา 10 วันต่อรอบ ถ้าเราฝึกรอบแรกได้คะแนนน้อยก็ไม่ต้องตกใจ ฝึกไปเรื่อยๆๆ โดย เรามี 10 ชุด ใช้เวลา 10 วัน
             ดังนั้น เมื่อครบ 10 วัน เราก็กลับมาทบทวนกันใหม่ ทำซ้ำกันไปเรื่อยๆแล้วลูก/นักเรียนของเราก็จะเก่งเองค่ะ แต่ว่าคุณพ่อคุณแม่/คุณครูต้องอาศัยความพยายามและใจเย็นๆๆกับผลผลิตที่ตกผลึกมาจากลูกหลานของเรานะคะ
วันที่ 1

วันที่ 2

วันที่ 3

วันที่ 4

วันที่ 5

วันที่ 6

วันที่ 7

วันที่ 8

วันที่ 9

วันที่ 10

คลังคำศัพท์ Spelling bee พร้อมตัวอย่างประโยค

  กิจกรรม Spelling bee ทุกคนต่างหาคำศัพท์ต่างๆมาฝึกนักเรียนเพื่อให้เกิดทักษะการเขียน แน่นอนว่าเมื่อมีการแข่งขันแล้ว ครูทุกคนย่อมค้นหาประโยคง่ายๆเพื่อประกอบการใช้คำศัพท์ วันนี้ครูตุ้มขอเสนอคำศัพท์ง่ายๆที่เขียนไว้เพื่อใช้ในการฝึกนักเรียนมาแบ่งปัน อาจจะเป็นเนื้อหาหรือประโยคง่ายๆ แต่บางครั้งก็มีการนำเสนอประโยคที่ผิดไวยากรณ์บ้าง ดังนั้น คุณครูหรือผู้รู้สามารถให้คำแนะนำได้นะคะ

1. teacher - My mother is a teacher.
2. refrigerator - I bought a refrigerator at Lotus.
3. chocolate - This chocolate is very sweet and tasty.
4. Kate stays in Pattaya the weekend.
5. I like fried rice for breakfast.
6. beautiful - Sandra is the most beautiful girl in the classroom.
7. intelligent Anna is intelligent, and I expect her to pass the exam easily.

>>>> คลิกดูคำศัพท์ทั้งหมดที่นี่ Click!!

วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

British and American English - มาเรียนภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ/อเมริกัน

10 คู่ศัพท์น่าสนใจที่ใช้ต่างกันในอังกฤษและอเมริกา
(UK คืออังกฤษและ US คืออเมริกาค่ะ)
มาดูสาวๆอังกฤษ กับ อเมริกัน เขาอธิบายถึงคำศัพท์ต่างๆที่ใช้ในประเทศของเขากันดีกว่าค่ะ 


(ขอบคุณแบบฝึกหัดดีๆจาก https://www.youtube.com/)

สื่อการสอน POWER POINT PRESENTATION – FRUITS

Topic  : Fruits Pages  : 13 Detail  : เนื้อหาในเรื่องเป็นเรื่องของผลไม้ ซึ่งเมื่อเปิดหน้าแรก นักเรียนจะได้พบกับวงล้อผลไม้ที่หมุนไม่หยุด...