วันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เที่ยว "เชียงคาน" มนต์สเน่ห์ยามค่ำคืน

         "เชียงคาน" เมืองเล็กๆ กับความเป็นอยู่อันเรียบง่ายตามวิถีชีวิตชาวบ้านริมฝั่งโขง กลับกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบความเงียบสงบ เรียบง่าย และ ความโบราณของบ้านเรือนและการดำเนินชีวิตของผู้คนในเชียงคาน
    



     ในช่วงหัวค่ำแก่งคุดคู้จะได้มุมที่สวยมาก กับแม่น้ำโขงที่ทอดยาว มองเห็นฝั่งลาวอีกฟาก และภูเขาเตี้ยอีกฝั่ง นั่งชมบรรยากาศช่วงเย็น โรแมนติกสุดๆ ในตอนค่ำตัวเมืองเชียงคาน แต่ละร้านพร้อมที่จะจำหน่ายสินค้าสวยๆ น่ารักๆ เหมาะกับการซื้อและเป็นของฝากอย่างมาก ส่วนใครที่ชอบถ่ายภาพ แต่ละร้านก็มีมุมสวยๆให้ได้นั่งเก๊กท่าสวย ซึ่งแต่ละร้านแต่งร้านได้สวย และเก๋มาก


   

   
     เท่าที่สังเกตแต่ละร้านจะมีการใช้คำว่า "เลย" และ "คาน" มาเล่นคำ เช่น เลยมาเชียงคาน    คิดถึง ณ เชียงคาน    เลยคาน  เป็นต้น
ดูแล้วก็เพลินดี กับการสรรหาของสวยๆมาจัดร้านให้เหมาะกับชื่อร้าน บางร้านก็หาของเก่าๆโบราณมาขาย เสื้อสกรีน และพวกกุญแจมากมาย ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจับใส่ถุงแล้วเอาไปเป็นของฝาก
    

   



         ใครไปเชียงคาน ก็ต้องเห็นมุมนี้มากันทุกคน บ้างก็ปั่นจักรยาน บ้างก็ยืนข้างป้าย ถือว่าเป็นมุมสุดฮิตของนักท่องเที่ยวกันทีเดียว
ยามค่ำคืนที่นี่ เรียบง่าย ผู้คนไม่พลุกพล่าน มาเที่ยวกันแบบธรรมชาติ ที่ จังหวัดเลย และที่นี่ "เชียงคาน" คือ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครๆก็อยากมาสัมผัส

   

ขึ้นภูกระดึงครั้งแรก (หน้าหนาว)

         การจะขึั้นภูกระดึงได้นั้นต้องมีแรงใจ แรงกายที่ค่อนข้างมั่นคง แข็งแรงจริงๆ เพราะ กว่าจะตัดสินใจขึ้นภูกระดึงก็ศึกษาข้อมูลมาเยอะมาก ตื่นเต้นกับการเขียนเรื่องราวของการขึ้นภูกระดึงของแต่ละคน เอาหละถึงเวลาที่จะขึ้นภูกระดึงบ้างแล้ว... เตรียมของกิน ของใช้ แล้วก็ยัดใส่กระเป๋า ใส่เป้ พร้อมเดินทาง

วันแรก .... วันขึ้นภูกระดึง
         หลังจากที่ติดต่อเรื่องที่พักและสัมภาระเสร็จแล้ว กลุ่มนี้ก็ไม่ลืมที่จะมาถ่ายภาพ "ครั้งหนึ่งในชีวิตขอพิชิตภูกระดึง" ก่อนซักภาพก่อนที่จะไปเจอภูกระดึงของจริงที่อยู่ด้านหน้าของเราซักหน่อย
         พอได้เข้าไปข้างในแค่นั้นแหละต้องร้อง "โห"..แค่เห็นป้ายหน้าทางก็ตกใจแล้ว ไม่ใช่เล่นๆเลยนะเนี่ยที่จะผ่านด่านแต่ละด่านไปได้ อ้อ..เขาเรียกแต่ละจุด ว่า "ซำ" เป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวให้ได้พักแขน พักขา ก่อนที่จะเดินต่อไปอีกหลายๆซำ



         เอาแล้วสิได้มาขนาดนี้แล้วก็ต้องไปต่อ "ซำแฮก" คือ ซำที่เหนื่อยที่สุด สมชื่อจริงๆ กว่าจะถึงซำที่แรก ถึงกับ เหนื่อยหอบแฮ่กๆ กันทีเดียว เพราะไกลมาก แล้วก็ทางค่อนข้างชัน แต่พอผ่านด่านนี้ไปได้ ซำอื่นๆก็สบาย ใช้เวลาเดินประมาณ 3-5 ชม. ก็ถึงหลังแป (ระหว่างทางก็จะได้เห็นลูกหาบ เพื่อนร่วมเส้นทาง และธรรมชาติ ว่าแล้วก็เพลินดี หายเหนื่อยนิดนึง) บรรลุเป้าหมายแรก เราก็ไม่ลืมถ่ายรูปเก็บไว้ ยิ้มทั้งๆในสภาพหมดแรงกันทุกคน


 



         ว่าแล้วก็เดินมาถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ติดต่อรับเครื่องนอน รับของจากลูกหาบพร้อมจ่ายเงินให้เรียบร้อย แล้วก็หาที่พัก
           รอบนี้พกเต้นท์มาเอง ไม่ได้เช่า เลยหาทำเลดีๆมากางเต้นท์กัน สิ่งที่ชอบที่สุดคือ นั่งกินขนมปี๊บกับร้องเพลงกับเพื่อนๆ ( รู้ทั้งรู้ว่ามีร้านค้าใกล้ๆก็ไม่ไปซื้อของมากินนะ ... ไปในที่ที่ทรหดทำตัวให้อดๆอยากๆเข้าไว้..ได้บรรยากาศที่สุด) ว่าแล้วก็เหนื่อย อาบน้ำ แล้วก็แยกย้ายกันนอน (ผ้าคลุมสีฟ้า..ไม่ใช่เต้นท์นะ..คลุมไว้กันหมอก)




วันที่ 2 - 3 ...วันแห่งการผจญภัย
         ว่าแล้วก็ปลุกกันแต่เช้าเพื่อตื่นมารับหมอก เราจัดแจงทุกอย่างให้พร้อมแล้วก็เดินตามเส้นทางในแผนที่ เริ่มจากน้ำตกวังกวาง ไปเรื่อยๆ เราเดินกันไปเกือบทุกที่ในเส้นทางที่ชี้อยู่ด้านล่าง เว้นไม่กี่ที่เพราะเวลาจำกัด เดินไปด้วยร้องเพลงไปด้วย ต่อเพลงกันคนละท่อนสองท่อน ฟังนิทานก้อม (นิทานอีสาน) เรื่องขำๆในห้องเรียนชีวิตความเป็นนักศึกษา วีรกรรมของเพื่อนแต่ละคน ...พอถึงจุดสวยๆ ก็ "อ๊ะๆๆ หยุดก่อน ถ่ายรูป ถ่ายรูป"  123 แชะ ... 
         เที่ยงจวนจะบ่ายแล้วสิ..พักเหนื่อย..กินข้าวกันตามพงหญ้า ได้บรรยากาศสุดๆกับ "ไข่ต้ม กับ น้ำพริก" ฝีมือแม่ที่พกมาจากบ้าน
วางอาหารบนหิน ช่วยกันแกะ ช่วยกันกิน ท่ามกลางป่า ... กินไปด้วย ฟังเรื่องขำๆในวงกินข้าวไปด้วย ได้บรรยากาศสุดๆ (จนรู้สึกว่า อาหารแบบนี้..บรรยากาศแบบนี้...มันอร่อยจนลืมเหนื่อยไปเลย)




         อ้าว..แดดดีๆแบบเมื่อตอนเที่ยงๆ หายไปไหนแล้วหละ..ยิ่งบ่าย ยิ่งเดินเข้าใกล้ "ผาหล่มสัก" เท่าไหร่ ยิ่งมีหมอกมากขึ้น พอไปถึงผาหล่มสัก...โห..คนเยอะมาก หมอกเยอะมาก..ต่อคิวกันตั้งนานกว่าจะได้ถ่ายรูปหมู่ รอจนเย็น..พระอาทิตย์ก็ตกคงไม่เห็น นั่งรอก็คงไม่ไหว อากาศเย็นมาก..เดี๋ยวจะกลับไปถึงที่พักไม่ทัน ว่าแล้วก็พากันเดินกลับ (แต่ไม่รีบ) เดินผ่านกี่หน้าผาก็หยุด เก็บภาพนิดนึง แล้วก็เดินต่อ นักท่องเที่ยวเดินแซงเราบ้าง เราชวนกันวิ่งแซงนักท่องเที่ยวบ้าง สนุกดี..








        ยามเย็นๆ แสงไฟสลัวๆในเต้นท์ กับเสียงกีตาร์ กับเพลงมากมายร้องไปด้วยกัน บางเพลงเคยฟังแต่ร้องไม่ได้ก็ทำหน้าที่ ปรบมือต่อไป เพลงเท่าที่ชอบและจำได้คือท่อนนี้
"เบื้องบนเป็นแผ่นฟ้ากว้าง เบื้องล่างเป็นธารน้ำใส ตัวฉันมีกาน้ำหนึ่งใบ กับกองฟืนที่วางเรียงราย .......
  ....ไปเก็บไม้เก็บฟืนมาต้มกา น้ำเดือดเราก็แบ่งกันกิน ฟืนหมดเรามาช่วยกันเก็บฟืน...." 
และ มุขสดๆ น้องทรายเรียนมหาลัย ของใครซักคน มันมืดมาก มองเห็นอะไรไม่ชัดเจน แต่เสียงของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ทำให้รู้สึกว่า ดูมีความสุขเสียเหลือเกิน เมื่อได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่ประกาศให้นอน แต่ละคนก็แยกย้ายกันเข้าเต้นท์ 





วันที่ 4...กลับแล้วภูกระดึง
         ในตอนเช้าแต่ละคนตื่นมาพร้อมกับเรื่องเล่า ว่าเมื่อคืนกว่าจะได้นอนต้องตกใจกับสัตว์อะไรซักอย่างมาคุ้ยหาอาหารอยู่รอบๆ
เต้นท์..เป็นเรื่องขำๆให้ได้คุยกันแต่เช้า แต่ละคนเก็บของเข้ากระเป๋า แล้วเอาไปชั่ง เพื่อให้ลูกหาบแบกกลับลงไป "เอ๊ะ..ทำไมมันหนักกว่าเดิมทั้งๆที่เสื้อผ้าเท่าเดิมแต่หนักกว่าเดิม ก็ใช่สิ..ผ้าชื้นนี่อยู่ตั้งหลายวัน" 
         เรามีเสื้อทีมด้วยเพราะซื้อด้วยกัน กว่าจะได้ลายนี้มาก็เถึยงกันอยู่นาน..ว่าแล้วก็มาถ่ายภาพกับหน้าป้ายศูนย์นิดหนึ่งก่อนกลับเราเดินกันเป็นกลุ่ม หยุดถ่ายภาพบ้าง กระโดดบ้างเพราะยังหนุ่มๆสาวๆยังพอมีแรงอยู่ก็กระโดดกันไป ร้องเพลงต่อกันทีละเพลง 
อ้าว.....ถึงหลังแปแล้วหรอ..."ถ่ายภาพกับป้ายก่อนลง..แชะ" แล้วก็ลงจากภูกระดึง ใช้เวลาไม่นานเพราะวิ่งบ้าง เดินรอกันบ้างเราเดินเกาะกลุ่มกันตลอด ทักทายกับนักท่องเที่ยวที่เพิ่งจะเดินขึ้นภูกระดึงบ้าง ไม่นานก็ถึงตีนภู






บางทีความประทับใจ..ไม่ต้องมีอะไรมาก..แค่มี "เพื่อน" มันก็ "ที่สุดแล้ว"
เมื่อครั้งเป็นเด็กหอใน สมัยเป็นนักศึกษา และ Friday 26/12/2008 - Monday 29/12/2008 

งานแห่เทียนเข้าพรรษา อุบลราชธานี

         วันพรรษา เป็นประเพณีทางศาสนาที่มีความสำคัญต่อทางพระพุทธศาสนา และต่อจากวันอาสาฬหบูชา นั่นคือ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 และ แรม 1 ค่ำเดือน 8 ถือว่าเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก
         ในเทศกาลวันเข้าพรรษา จังหวัดอุบลราชธานีถือว่าเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงด้านการสืบทอดวัฒนธรรมการแห่เทียนพรรษาตลอดมา ชาวอุบลราชธานีได้มีการจัดทำต้นเทียนที่มีความยิ่งใหญ่และมโหฬารเข้ามาประกวดความวิจิตรบรรจง ความสวยงามเป็นจำนวนมาก สถานที่จัดงานคือ บริเวณทุ่งศรีเมืองและศาลาจตุรมุข โดยมีการประกวดต้นเทียน 2 ประเภท คือ ประเภทติดพิมพ์ และประเภทแกะสลัก แต่ละคุ้มวัดต่างๆ จะประดับต้นเทียนขนาดต่างๆ นางฟ้าประจำต้นเทียน พร้อมกับขบวนแห่นางรำที่มีการฟ้อนอย่างงดงาม โดยขบวนจะเคลื่อนขบวนจาก หน้าวัดศรีอุบลรัตนาราม ไปตามถนนและมาสิ้นสุดขบวนที่ทุ่งศรีเมือง แล้วจากนั้นก็จะมีการตั้งขบวนแห่เทียนพรรษาไว้ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างจังหวัดได้ชมกันค่ะ

    



        งานแห่เทียนเข้าพรรษาของจังหวัดอุบลราชธานี เป็นอะไรที่สวยมากค่ะ..เทียนแต่ละต้นอลังการมาก..มีความสวยงามแตกกต่างกันไป วันที่ดูต้นเทียนได้ใกล้มากที่สุดคือ ช่วงหัวค่ำไปจนถึงกลางดึกของวันอาสาฬหบูชา ก่อนที่ขบวนแห่เทียนพรรษาแต่ละขบวนจะเดินแห่วันจริง จะมีการนำขบวนมาตั้งไว้บริเวณทุ่งศรีเมืองก่อน ดังนั้น เราสามารถเข้าไปใกล้ชิด ดูความตระการตาและความสวยงามของต้นเทียนได้อย่างใกล้ชิด แล้วเวลาถ่ายรูปก็จะได้ภาพต้นเทียน ภาพเดี่ยวและภาพหมู่ที่สวยงาม แต่ต้องใช้กล้องที่มีความละเอียดที่สูงหน่อยเพราะว่าอยู่ในความมืด การเดินดูขบวนเทียนพรรษาตอนกลางคืนเป็นการเดินดูแบบอากาศเย็นๆ ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน 

         เมื่อไปก่อน 1 วัน ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีอะไรให้ดู(นอกจากต้นเทียน) เพราะช่วงกลางคืนจะมีการแสดงฟ้อนรำต่างๆให้ได้ชม หรือไม่ก็เข้าไปร่วมเวียนเทียน ฟังธรรมในวัดก็ได้ค่ะ เพราะแถวนั้นมีวัดอยู่ใกล้กันจำนวนมาก

     
แห่เทียนพรรษา    แห่เทียนพรรษา

        ส่วนใครที่อยากดูความอลังการและการแห่ขบวนอย่างเต็มรูปแบบก็ต้องดูวันแห่เทียนเข้าพรรษา (วันแห่จริง) แต่ละขบวนมีการประดับตกแต่งได้อย่างวิจิตรอลังการมาก ไม่ยอมแพ้กันเลยทีเดียว แต่ว่าต้องทนกับอากาศที่ร้อนหน่อย กับ คนจำนวนมากที่ต่างก็พากันมาดูความสวยงามของต้นเทียนที่แบบว่ามากันเยอะมาก แล้วรถก็ติด ดังนั้น ถ้าจะได้ดีต้องมาแต่เช้าๆ หาที่จอดรถที่เข้าออกง่าย แล้วก็เข้ามาจับจองที่นั่งในอัฒจรรทร์ที่เจ้าหน้าที่สร้างไว้ให้สำหรับนั่งชมขบวน ขบวนแต่ละอำเภอจะแห่ ประมาณ 9.00 น. จนเสร็จสิ้นประมาณ 15.00 น. นักท่องเที่ยวก็จะเดินชมขบวนไปเรื่อยๆตลอดทั้งวัน
     

วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557

แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ :: โฟนิคส์ Step 6 :: A sound ( Part 2 )

       แบบฝึกแต่ละชุดจะประกอบด้วยชุดย่อยๆจำนวนหลายแบบฝึก ซึ่งเอกสารถูกจัดไว้เป็นชุด 

ดังนั้น ผู้สอนสามารถโหลดเอกสารไปสอนได้อย่างง่ายดาย และแต่ละชุดจะมีความสอดคล้องกันทั้งหมด 
จึงทำให้เอกสารแต่ละชุดสามารถฝึกฝนให้ผู้เรียนได้ฝึกต่อเนื่องไปจนจบบทเรียน


แผ่นที่ 1

แผ่นที่ 2

แผ่นที่ 3

แผ่นที่ 4

แผ่นที่ 5

แผ่นที่ 6

แผ่นที่ 7 

วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2557

แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ :: โฟนิคส์ Step 6 :: A sound ( 1 )

       แบบฝึกแต่ละชุดจะประกอบด้วยชุดย่อยๆจำนวนหลายแบบฝึก ซึ่งเอกสารถูกจัดไว้เป็นชุด 

ดังนั้น ผู้สอนสามารถโหลดเอกสารไปสอนได้อย่างง่ายดาย และแต่ละชุดจะมีความสอดคล้องกันทั้งหมด 
จึงทำให้เอกสารแต่ละชุดสามารถฝึกฝนให้ผู้เรียนได้ฝึกต่อเนื่องไปจนจบบทเรียน


แผ่นที่ 1




แผ่นที่ 2


แผ่นที่ 3



แผ่นที่ 4


แผ่นที่ 5


แผ่นที่ 6


แผ่นที่ 7


วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

Time ( การบอกเวลา )

ใครๆหลายคนเคยมีปัญหาด้านการบอกเวลามาแล้ว
>> เอ....ตอนนี้เที่ยงตรงจะบอกเขาว่ายังไงกันนะ?
>> อ้าวแล้วตอนเที่ยงคืน จะบอกยังไงกันหละ?


สื่อการสอน POWER POINT PRESENTATION – FRUITS

Topic  : Fruits Pages  : 13 Detail  : เนื้อหาในเรื่องเป็นเรื่องของผลไม้ ซึ่งเมื่อเปิดหน้าแรก นักเรียนจะได้พบกับวงล้อผลไม้ที่หมุนไม่หยุด...